พระนมปริกพระนมเอกผู้ใหญ่แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระนมปริก เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีขาล โทศก จุลศักราช ๑๑๙๒ พ.ศ. ๒๓๗๓ ซึ่งเป็นปีที่ ๗ แห่งการครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓
พระนมปริกเป็นธิดาของพระยาอิสรานุภาพ (ขุนเณรน้อย) เกิดแต่ภรรยาคนที่ ๑๐ คือ ท่านขำ ถือกำเนิดที่บ้านบิดาตั้งอยู่ฟากตะวันตกแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างวัดอรุณราชวรารามกับกุฎีเจ้าเซนกรุงเทพมหานคร มีพี่น้องร่วมบิดาทั้งสิ้น ๑๘ คน
พระยาอิศรานุภาพ (ขุนเณรน้อย) เป็นบุตรชายคนโตของพระเทพเพ็ชรรัตน์ (นาค) และท่านฉิม (หรืออีกชื่อคือท่านรอด)
พระเทพเพ็ชรรัตน์ (นาค) เป็นบุตรชาย ของพระยารัตนจักร (หงส์ทอง) ซึ่งเป็นราชินิกูลรัชกาลที่ ๕
ท่านฉิม (หรืออีกชื่อคือท่านรอด) เป็นบุตรีของท่านผ่อง กับ พระอักษรสมบัติ หม่อมราชวงศ์ทับ (ราชตระกูลกรุงเก่า)
พระนมปริกนั้นมีบุรพชนอันเป็นชั้นสูงในจำพวกที่กล่าวว่า "ผู้ดีแปดสายแรก" ผู้หนึ่ง เพราะเป็นราชินิกูลรัชกาลที่ ๓ และที่ ๕
ทางบิดาของพระยาอิศรานุภาพ =>พระเทพเพ็ชรรัตน(นาค)
สายราชินิกูลรัชกาลที่ ๕ {คือสกุลอำมาตย์รามัญ (หงส์ทอง)} หนึ่ง
ทางมารดาของพระยาอิศรานุภาพ =>ท่านฉิม(หรือท่านรอด)
สายราชินิกูลรัชกาลที่ ๓ {คือสกุลแขกชาติสุนีวัดหงส์} หนึ่ง
สายราชินิกูลรัชกาลที่ ๓ {คือสกุลชาวสวนวัดหนัง} หนึ่ง
สายแขกชาติสุนีพัทลุง {คือสกุล ณ พัทลุง} หนึ่ง
สายราชสกุลกรุงทวาราวดี (กรุงเก่า) {คือสกุล ม.ร.ว.ทับ} หนึ่ง
เมื่อพระนมปริกมีอายุได้ ๒ ปี เจ้าจอมพึ่งในรัชกาลที่ ๓ ผู้เป็นพี่ใหญ่ มีความเสน่หารักใคร่รับไปประคับประคองเลี้ยงดูไว้ในพระบรมมหาราชวัง ให้การศึกษาอบรมที่เหมาะสมกับกุลสตรีแห่งยุคสมัยนั้น เมื่ออายุได้ ๑๓ ปี พระยาอิศรานุภาพผู้บิดาได้จัดการมงคลตัดจุกตามประเพณี แล้วก็กลับเข้าไปอยู่กับเจ้าจอมพึ่งพี่สาวในพระบรมมหาราชวังตามเดิม จนถึงอายุได้ ๒๐ ปี พระยาอิศรานุภาพบิดาซึ่งในเวลานั้นยังเป็นพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร มีความเมตตาปราณีนายเสถียรรักษา ปลัดวังซ้าย (เที่ยง) จึ่งได้จัดการวิวาหมงคลยกพระนมปริกบุตรีให้เป็นภรรยานายเสถียรรักษา มีบุตรและบุตรีด้วยกัน ๙ คน พอจะลำดับชื่อได้ดังนี้
คนที่ ๑ เป็นหญิง ชื่อ เขียน เป็นพระสนมในเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ (ก่อนเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ต่อมาได้กราบถวายบังคมลาถือเพศเป็นชี
คนที่ ๒ เป็นชาย ชื่อ ศรีสิทธิ์ เป็นมหาดเล็กข้าหลวงเดิมรัชกาลที่ ๕ ต่อมาเป็นหลวงอินทรมนตรี กรมสรรพากร ภายหลังออกบวชเป็นพระภิกขุ
คนที่ ๓ เป็นหญิง ชื่อ วาด เป็นเจ้าจอมมารดาวาดในรัชกาลที่ ๕ มีพระโอรส คือ พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ต้นราชสกุล "ฉัตรชัย"
คนที่ ๔ เป็นหญิง ชื่อ เชย
คนที่ ๕ เป็นหญิง ชื่อ ชื่น
คนที่ ๖ เป็นหญิง ชื่อ แปลก สมรสกับพระยาไชยนันทน์ นิพัทธพงศ์ (เชย ไชยนันทน์)
คนที่ ๗ , คนที่ ๘ และ คนที่ ๙ นั้นไม่ทราบชื่อ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ทรงไว้วางพระราชหฤทัย ทรงโปรดฯ ให้พระนมปริกเป็น "พระนมเอก" ผู้ถวายพระนมและการอภิบาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแต่แรก เสด็จพระราชสมภพดำรงยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ ขณะนั้นพระนมปริกได้คลอดธิดาคนแรก พระยาอิศรานุภาพจึงได้ถวายพระนมปริกให้เป็นพระนม สมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์
ผู้รับหน้าที่อภิบาลพระราชโอรสธิดากษัตริย์นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง ต้องคัดเลือกจากสตรีสูงศักดิ์ที่เป็นญาติวงศ์ใกล้ชิด (ซึ่งบิดาพระนมปริกคือพระยาอิศรานุภาพนั้นนับเป็นญาติใกล้ชิดสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี) อีกทั้งต้องมีสุขภาพดีร่างกายแข็งแรง ลักษณะท่าทางบุคลิกภาพต้องดี เพราะทารกย่อมมีความผูกพันใกล้ชิดกับผู้ให้นมดื่มกินและกับผู้เห่กล่อมนอน เมื่อโตขึ้นรู้ความมักถือเอาแม่นมนั้นสำคัญเสมอแม่บังเกิดเกล้าของตัวอีกคนหนึ่ง ต่อมาสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี เมื่อมีพระประสูติกาล สมเด็จเจ้าฟ้าหญิง กรมหลวงวิสุทธิกระษัตรีย์ ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระนมปริกถวายพระนมแด่พระราชธิดาอีกครั้งหนึ่ง และมีพระราชประสงค์จะให้พระนมปริกได้ถวายพระนมแต่พระราชโอรสและพระราชธิดาซึ่งจะประสูติในวันข้างหน้าอีก
เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ทรงเจริญพระชนมายุขึ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระนมปริกกลับออกมาอยู่บ้านได้ ต่อเมื่อได้ประสูติ สมเด็จเจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงศ์ และ จอมพลสมเด็จพระราชปิตุลาบรมวงศาภิมุข กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เป็นเวลาเดียวกับพระนมปริกคลอดบุตรและธิดาร่วมปีประสูติเช่นเดียวกัน จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระนมปริกถวายพระนมแด่พระธิดาและพระโอรสข้างต้น สมพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนมปริกมีอายุมากขึ้นและให้พระนมไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังได้รับการไว้วางพระราชหฤทัยจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระนมปริกทำหน้าที่สรงน้ำ ประคับประคองและถวายการอภิบาล แด่พระราชโอรสและพระราชธิดาที่จะประสูติเกือบจะทุกพระองค์ มีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมงกุฎราชกุมาร พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ ที่ประสูติ แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) แต่เสด็จสวรรคตขณะทรงมีพระชนมายุเพียง ๑๖ พรรษา, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฏราชกุมาร (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖), สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) เป็นต้น
พระนมปริกได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์จุลจอมเกล้าชั้นที่ ๓ (ตติยจุลจอมเกล้า) และกล่องหมากเงินสลักลายเบามีอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ จ.ป.ร. เป็นเกียรติยศ และได้รับพระมหากรุณาอุปการะเป็นเอนกประการ มีเบี้ยหวัด เงินปี เป็นต้น กับทั้งได้พระราชทานผ้าน้ำสงกรานต์เสมอทุกปีมา และเมื่อพระนมปริกบำเพ็ญกุศลครบ ๘๐ ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้พระราชทานเงิน ๘๐๐ บาท เท่าอายุเป็นพิเศษด้วย
ปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนมปริกชราภาพมากขึ้น มีโรคเบียดเบียนป่วยเป็นลมอัมพาตไปไหนไม่ได้มาช้านาน ครั้งหนึ่งมีอาการเพียบมาก ได้มีหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายกราบถวายบังคมลา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระอาลัยสังเวชสลดพระราชหฤทัย จึงได้มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งเสนาบดีกระทรวงวังว่า พระนมปริกเป็นพระนมผู้มีอัธยาศรัยดีมาก มีความจงรักภักดีโดยซื่อสัตย์สุจริตต่อใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท แลกรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ พระบรมราชชนนีก็ทรงยกย่องว่าเป็นพระญาติ ถ้าพระนมปริกถึงแก่กรรมลงเมื่อใด พระราชทานเกียรติยศให้เป็นศพโกษฐ์ บังเอิญเวลานั้นอาการป่วยของพระนมปริกฟื้นขึ้น แพทย์ได้รักษาพยาบาลต่อมา มีอาการฟื้นบ้างทรงบ้างทรุดบ้างจากนั้นอีก ๓ ปี ในแผ่นดินรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนมปริกจึงถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันจันทร์ที่ ๓๐ ตุลาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๓๐ พ.ศ. ๒๔๕๔ สิริอายุได้ ๘๑ ปี
พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) นำดอกไม้ธูปเทียนกราบถวายบังคมลาแทนพระนมปริก (ขรัวยาย) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สั่งให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสรรพสิทธิประสงค์ เสนาบดีกระทรวงวัง จัดเครื่องเกียรติยศศพ ตามกระแสพระราชดำรัสสั่งไว้แต่ครั้งในรัชกาลที่ ๕ นั้น ทุกประการ
ในการศพพระนมปริกนั้น พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน (พระอิสริยยศในขณะนั้น) กับ เจ้าจอมมารดาวาดเป็นเจ้าภาพ ได้จัดการที่วังพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน มีพระราชวงศานุวงศ์ ข้าราชการ แลวงศ์ญาติเป็นอันมากได้มาอาบน้ำศพ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยาภานุพันธุวงศ์วรเดช (จอมพลสมเด็จพระราชปิตุลาบรมวงศาภิมุข กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช) เป็นผู้ประทานน้ำของหลวงอาบศพ เจ้าพนักงานแต่งศพยกลงลองใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเธอเจ้าฟ้ากรมพระยาภานุพันธุวงศ์วรเดชทรงสวมลอมพอกศพประทาน แล้วเชิญศพขึ้นตั้งที่ประกอบโกษฐ์ มีฉัตรเบญจาแวดล้อม กลองชนะประโคมเป็นเกียรติยศ
ครั้น ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๓๑ พ.ศ. ๒๔๕๕ เจ้าภาพได้จัดการบำเพ็ญกุศลที่วังพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน (พระอิสริยยศในขณะนั้น) มีพระราชวงศานุวงศ์ ข้าราชการ แลวงศ์ญาติเป็นอันมากไปประชุมกัน ช่วยการบำเพ็ญกุศล วันที่ ๒๘ พฤษภาคม เวลาบ่าย เจ้าพนักงานได้เชิญศพพระนมปริกประกอบโกษฐ์ราชนิกูลขึ้นตั้งบนรถแปลง จากวังพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ไปยังสุสาน ณ วัดเทพศิรินทราวาศ เชิญศพเข้าตั้งในเมรุ แล้วพระราชทานเพลิงในวันนั้น
พระนมปริกเป็นกุลสตรีที่มีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรีเป็นอย่างยิ่ง ในวัยเด็กได้รับการศึกษาอบรมเลี้ยงดูในพระบรมมหาราชวังแต่ครั้งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เมื่อเติบโดออกไปมีเหย้าเรือนแล้วยังได้รับไว้วางพระราชหฤทัยจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ และพระเทพศิรินทรา บรมราชินี ให้เป็นพระนมแด่พระราชโอรสและธิดาทั้ง ๔ พระองค์ คือ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) สมเด็จเจ้าฟ้าหญิง กรมหลวงวิสุทธิกระษัตรีย์ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระจักรพรรดิพงศ์ และจอมพลสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พระนมปริกจึงได้อยู่ในฐานะพระนมเอก ที่ได้ถวายพระนมแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระขนิษฐาและพระอนุชาร่วมครรโภทร ที่พิเศษกว่าพระนมอื่นใดนั้น ต่อเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชโอรสและพระราชธิดาจะประสูติ จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระนมปริกทำหน้าที่สรงน้ำ ประคับประคองและถวายการอภิบาลเบื้องต้นเกือบจะทุกพระองค์ นอกจากเป็นพระนมที่ดีแล้ว พระนมปริกยังเป็นราชินิกุล และเป็นแม่ยายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท้ายที่สุดเป็นขรัวยายของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ดั่งนี้แล้วจึงควรสรรเสริญพระนมปริกเป็น "พระนมเอกผู้ใหญ่ แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว "
ผังแสดงความสัมพันธ์ ราชินิกูลรัชกาลที่ ๓ และ ราชินิกูลรัชกาลที่ ๕ อันเกี่ยวเนื่องกับพระนมปริก
ผังตระกูล เจ้าพระยาจักรีศรีสมุหองครักษ์ (แขก) หมุด หวังหะสัน
สกุลแขกสุนีวัดหงส์ ราชินิกูลรัชกาลที่ ๓
สกุลแขกสุนีวัดหงส์ ราชินิกูลรัชกาลที่ ๓
ผังตระกูล ท่านผ่อง และ พระอักษรสมบัติ (หม่อมราชวงศ์ทับ)
ผังตระกูล พระยารัตนจักร (หงส์ทอง)
ผังตระกูล พระยาอิศราภาพ (ขุนเณรน้อย)
หนังสือประกอบการเขียน
ประวัติพระนมปริกแลเทศนาพิเศษพระรัฐประศาสนนัย. พิมพ์แจกในการศพพระนมปริก พ.ศ. ๑๓๑. โรงพิมพ์สุภการ จำรูญ ๒๔๕๕
ภาณุรังษีสว่างวงษ กรมพระยาภาณุพันธุวงศวรเดช, จอมพล จอมพลเรือ สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้า. ราชินิกูลรัชกาลที่ ๓. มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดพิมพ์ ๒๕๓๕.
__________. ราชินิกูลรัชกาลที่ ๕. หนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงพระศพพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารำไพประภา ณ พระเมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ๗ สิงหาคม ๒๕๒๒.
มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์. วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร และรวมความรู้เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่กัว. กรุงเทพ ๒๕๔๔
เล็ก วงศ์สมัครไทย. พระญาติ ราชสกุล กรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพ : ข้าวฟ่าง ๒๕๔๙
องค์ บรรจุน. หญิงมอญ อำนาจและราชสำนัก. กรุงเทพ : มติชน ๒๕๕๐
ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. กรุงเทพ : มติชน ๒๕๕๒
พระนมปริกพระนมเอกผู้ใหญ่แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย ตะวัน ธนวสุมงคล อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ tawanguide.spaces.live.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ http://tawanguide.spaces.live.com